กุมารทองกับลูกกรอก แตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไร?

        วันนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ลูกกรอกกับกุมารทอง แตกต่างกันอย่างไร ลูกกรอกในสมัยโบราณนั้น เชื่อกันว่าคือเด็กที่ตายในท้องตั้งแต่ยังเล็กๆ และเมื่อครบกำหนดคลอดแล้วก็จะคลอดออกมา หรือบางทีก็จะคลอดออกมาก่อนกำหนดแต่เขาได้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่อยู่ในท้อง ว่ากันว่าหากใครมีลูกกรอกไปเกิดด้วยเวลาตั้งท้องๆจะใหญ่และยุบใหญ่และยุบเหมือนเป่าลูกโป่งแล้วปล่อยลมเลยครับ ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก ลูกกรอกนี้เขาจะต้องตายตั้งแต่อยู่ในท้องนะครับแล้วเมื่อครบกำหนดคลอดแล้วเขาจึงคลอดออกมา ไม่ใช่ยังไม่ถึงกำหนดแต่ไปผ่าเอาในท้องเหมือนขุนช้างขุนแผน แบบนั้นไม่เรียกว่าลูกกรอกครับ ลูกกรอกนี้เขาต้องตายในท้องเองและคลอดออกมาเองจึงจะเรียกว่าลูกกรอก

        ครอบครัวไหนที่มีลูกกรอกมาเกิดด้วยถือว่าลูกกรอกนั้น จะมาช่วยทั้งในเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ช่วยให้ร่ำรวย เพราะฉะนั้นครอบครัวไหนที่คลอดลูกออกมาเป็นลูกกรอก จะหวงมากครับ จะไม่ให้คนอื่นรู้เลยว่าตนมีลูกกรอก เพราะลูกกรอกนี้มีฤทธิ์เยอะ พวกหมอผีหรือพวกคลั่งไคล้ในไสยเวทย์จะมาบังคับเอาลูกกรอกไปใช้งาน พวกนี้เขาจะให้ผีที่้เขาเลี้ยงอยู่ค่อยสอดส่องคอยหาว่าบ้านไหนมีลูกกรอก แล้วเขาก็จะใช้วิชาบังคับเอาไปครับ หากบ้านเรามีลูกกรอก แล้วลูกกรอกของเราเจอแบบนี้ ขอให้เราไปถวายสังฆทาน โดยมีพระพุทธรูปและผ้าไตรจีวรครับ เท่านี้พวกหมอผีก็จะหมดอำนาจเรียกเขาไปแล้ว เพราะเขาจะไม่ใช่ผีอีกต่อไป เป็นเทพแล้วครับหมอผีจึงใช้วิชาบังคับเขาไปใช้งานไม่ได้

        ส่วนกุมารทองในแบบฉบับของโบราณนั้นหมายถึงการนำเด็กที่อยู่ในท้องของมารดาที่เสียชีวิตขณะท้อง มาทำเป็นกุมารทอง บ้างที่อาจจะถึงขนาดไปผ่าเอาศพเด็กจากแม่ของกุมารทองที่เสียชีวิตขณะท้องอยู่เลยทีเดียว ซึ่งเราจะเห็นว่าในสมัยโบราณจะมีเรื่องเล่ามากมายเกี่ยวกับดวงวิญญาณที่หวงลูก สาเหตุเนื่องมาจากการที่หมอผีหรือผู้มีวิชาอาคมต้องการเด็กในท้องจากศพไปทำเป็นกุมารทอง ส่วนวิธีการทำนั้นว่ากันว่า เมื่อได้ร่างของเด็กแล้ว จะนำมาทำพิธีโดยการย่างในโบสถ์เวลากลางคืน และทำการลงรักปิดทอง คำว่ากุมารทอง จึงเกิดมาจากการที่นำกุมารมารปิดทองในขั้นตอนของพิธีกรรมดังกล่าวนี้เอง

        อย่างไรก็ตามยุคสมัยได้เปลี่ยนแปลงไปแล้วครับ การทำกุมารทองหรือนำซากศพของเด็กมาทำกุมารทองจึงถือเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ในยุคสมัยปัจจุบัน จึงได้มีการคิดวิธีการสร้างกุมารทอง ด้วยมวลสารต่างๆ ที่มีอาถรรย์และยังพอสามารถหาได้ เช่นดิน 7 ป่าช้า ดิน 7โป่ง ดิน7ท่า ดิน 7 นคร เป็นต้น

        ทำไมถึงต้องใช้อย่างละ 7 เหตุผลเพราะเลข 7 ในทางของไสยศาสตร์นั้นถือเป็นเลขอาถรรพ์ครับ ตามตำราที่มีมาแต่โบราณนั้น เขาใช้อย่างละ 7 ในการนำมาสร้างกุมารทอง อย่างไรก็ตามการเช่าบูชากุมารทอง ไม่ว่าจะเช่าบูชามาจากสำนักไหนก็เข้มขลังเหมือนๆ กันครับ ขึ้นอยู่กับผู้เลี้ยงมากกว่า การที่กุมารทองจะมีฤทธิ์มากหรือน้อยนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญ หากเราเลี้ยงเขาดี หมั่นทำบุญทำกุศลให้เขาแล้วกัน กุมารทองของเราที่เลี้ยงอยู่ ก็จะเก่งไม่แพ้ของที่ไหนเลย

บทความโดย
"ร้านกุมารทองบางกอก"